เรียกว่าเป็นฮีโร่ทั้งในจอและนอกใจกับ เจเรมี เรนเนอร์ ที่เปิดเผยว่าสาเหตุที่เขา ถูกรถตักหิมะทับ เป็นเพราะเข้าช่วยหลานให้พ้นภัย เมื่อวันที่ 25 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจเรมี เรนเนอร์ ดาราดังผู้รับบทฮอกว์อายที่ก่อนหน้านี้มีข่าวถูกรถไถหิมะทับเมื่อช่วงวันปีใหม่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ล่าสุดมีรายงานจากนายอำเภอว่า สาเหตุที่เขาถูกรถไถหิมะทับนั้น เป็นเพราะเขาพยายามช่วยเหลือหลานของเขาไม่ให้ถูกรถทับ
จากรายงานนั้นระบุว่า เจเรมี เรนเนอร์ ได้ใช้รถตักหิมะในการกวาดหิมะออกจากลานรอดรถเขา
หลังจากที่รถกระบะของหลานติดอยู่ในหิมะ เมื่อเขาเก็บกวาดเสร็จสิ้น เขาก็ออกมาจากรถตักหิมะ โดยไม่ได้ดึงเบรกเอาไว้ ทำให้รถตักหิมะไถลลงไปและพุ่งตรงไปยังหลานชาย ดาราดังคนดังกล่าวจึงพยายามหยุดรถและเปลี่ยนทิศทางของรถเพื่อไม่ให้หลานชายบาดเจ็บ ส่งผลให้เขาถูกทับด้วยรถที่มีน้ำหนัก 6 ตัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกหักไปกว่า 30 ซี่
ตำรวจระบุว่า แม้รถตักหิมะจะมีความขัดข้องและอาจจะมีส่วนกับอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหาก เจเรมี เรนเนอร์ ดึงเบรกเอาไว้ รถตักหิมะจะไม่ไถลไปข้างหน้า และไม่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัว เจเรมี เรนเนอร์ ได้โพสต์ข้อความและภาพของดาราชายคนดังกล่าวกำลังออกกำลังกาย โดยเขาขอบคุณทุกกำลังใจ และระบุว่ากำลังใจของทุกคนจะทำให้กระดูกเขากลับมาเชื่อมต่อกัน และทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น
จากกรณีข่าวของพระเอกหนุ่ม ‘บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม‘ โพสต์ประกาศถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลางอินสตาแกรมส่วนตัว ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ เผย เจ้าตัวได้เลขนี้มาจากการไปซื้อแหวน ทาง ‘พี่โอ๊ต‘ จึงแจกลอตเตอรี่ออนไลน์ให้กับลูกค้าทุกคน บางคนได้พัน ๆ ใบเลยก็มี ส่วนใบที่ถูกนี้ พี่โอ๊ต ก็เป็นคนจิ้มมาให้
ก่อนที่จะมีข่าวของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล‘ ตั้งข้อสงสัยกับเหล่าบรรดาผู้โชคดีที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กับ ‘หงษ์ทอง‘ หลังมีคนออกมาสารภาพว่า ไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 จริง แต่ถูกว่าจ้างด้วยเงินจำนวน 5 พันบาท เพื่อโพสต์เป็นคอนเทนต์ กระทั่งอดีตพนักงานบริษัทดังกล่าวถึงกับออกมาแฉรายการ ‘โหนกระแส‘ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา
กระทั่งชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยไปที่หนุ่ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ แห่เข้ามาคอมเมนต์ที่ใต้โพสต์ล่าสุดของพระเอกหนุ่มเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น “อยากรู้เรื่องลอตเตอรี่ครับ”, “ได้เงิน6ล้านยังคะ”, “ตามมาจากติ้กต่อกครับ bigm ที่ถูกลอตเตอรี่ออนไลน์ ที่โหนกระแสพูดถึงใช่ไหมครับ”, “ถูกจริงไหมค่ะ”, ฯลฯ
‘แดนนี่’ เปิดใจทั้งน้ำตา หลังหย่า ‘มิ้วกี้’ ชีวิตรัก 8 ปี ไม่เคยนอกใจ
หลังจากที่มีข่าวของหนุ่ม ‘แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง‘ หย่ากับอดีตภรรยา ‘มิ้วกี้ ไปรยา ผดุงสุข’ เหลือเพียงสถานะพ่อและแม่ของ ‘น้องกาเนส’ โดยฝ่ายหญิงให้เหตุผลว่า ทั้งคู่มีปัญหาสะสมมานานหลายปี เริ่มต้นจากปัญหาเล็ก ๆ จนกลายเป็นไม่มีความสุขกับสถานะนี้อีกต่อไป
ล่าสุด (21 พ.ย. 65) ทางหนุ่ม แดนนี่ ก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาหลังหย่า มิ้วกี้ ผ่านรายการ ‘TurningPoint‘ ของพิธีกรสาว ‘ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล‘ เผย ชีวิตรัก 8 ปี ไม่เคยนอกใจ แต่อาจเป็นเพราะเรื่องเล็ก ๆ ที่เรามองข้ามไปจนลืมคนข้าง ๆ พอมองย้อนกลับไปอาจจะเป็นเรานี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ โดยระบุว่า “คบกัน 8 ปี ผมไม่เคยเจ้าชู้ไม่เคยนอกใจ ไม่เคยมีกิ๊กกั๊กอะไรเลย 8 ปีเต็ม แต่มีผู้หญิงมาขอคุยด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ยุ่งเลย 8 ปีไม่มีเลย แต่ละช่วงเวลาชีวิตก็มีอะไรให้ทำ หรืออีกมุมหนึ่ง เราก็อาจจะผ่านช่วงชีวิตโสดมาเยอะแล้ว”
จุดเปลี่ยนคือช่วงที่แต่งงาน ?
“ตอนนั้นเป็นดีเจจัดรายการอยู่ แต่เวลาค่อนข้างดึก ก็เท่ากับว่าไม่มีเวลาให้ครอบครัวแน่นอน แล้วก็ได้ครอบครัวมาเลย ตอนวางแผนเสร็จปุ๊บได้เลย (หัวเราะ) กะจะแต่งงานปลายปี บินไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่อเมริกา กลับมาปุ๊บ แต่งก่อนเลย ทุกอย่างพร้อมหมด เหลือแต่ใจ น้องกาเนส (ลูกชาย) มาจากอเมริกา เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก พอมีลูกทำให้โฟกัสในชีวิตเปลี่ยน ตื่นเช้าทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว ปูพื้นฐานให้กับลูก”
มิ้วกี้ เข้ามาเปลี่ยนอะไรบ้าง ?
“อันนี้ยังไม่เอ่ยชื่อใครเลยนะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ มันมีสิ่งที่ทำมาด้วยกัน และมีสิ่งดี ๆ ที่ทำให้เราเปลี่ยน โฟกัสชัดเจน เก็บเงินเก่ง มีคนคอยให้คำปรึกษา คอยช่วยกันวางแผน มันก็เลยทำให้โตขึ้นมาพร้อม ๆ กัน แล้วก็ทำให้ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ เรื่อง
ส่วนจุดเปลี่ยนของปีนี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ใหญ่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้นะ ทิศทางจะไปทางไหนต่อ ไม่ใช่แค่คู่รัก เรามีลูก และทำธุรกิจด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องลูก มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กว่าจะคุยกัน ตกลงกันมันก็ใช้พลังงานไปเยอะมาก โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่มีความเชื่อ แต่งงานกันแล้วเหมือนเป็นคู่ชีวิตต้องอยู่กันไปตลอด แต่ถ้าความรู้สึกของอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้คิดเหมือนกัน มันก็เลยทำให้จุดแบบนี้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยทำให้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยน ในที่สุดมันก็เดินทางต่อไปด้วยกันไม่ได้
ทุก ๆ เรื่องของความสัมพันธ์อาจจะเป็นเราด้วยที่มองว่าบางอย่างมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราเป็นคนที่มองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่เห็นมีอะไร เช่น บางทีทำงานจนลืมคนข้าง ๆ ไปหรือเปล่า ซึ่งจริง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องเซนซิทีฟ พอมองย้อนกลับไป อาจจะเป็นเรานี่แหละที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งด้วยที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น ปีนี้เป็นปีที่ช็อกมาก
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า